- ลิเทียม (Li) มีสมบัติดูดความร้อนได้ดี มักใช้ในการถ่ายเทความร้อน ใช้เป็นขั้วแบตเตอรี่ เนื่องจากมีศักยภาพในการให้อิเล็กตรอนที่ดี
- โซเดียม (Na) เป็นธาตุทำปฏิกิริยาได้ว่องไวมาก จึงจำเป็นต้องเก็บในน้ำมัน ในชีวิตประจำวันของเรามีการใช้ประโยชน์จากสารประกอบโซเดียมมากมาย เช่น เกลือแกง หรือโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) ซึ่งใช้ในการประกอบอาหาร, ผงฟูหรือโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต (NaHCO3) ซึ่งใช้ในการทำขนมปังให้ฟู เป็นต้น
2. ธาตุหมู่ 2A หรือโลหะอัลคาไลน์เอิร์ธ (Alkaline-earth Metals) ธาตุหมู่ 2A หรือโลหะอัลคาไลน์เอิร์ธ มีลักษณะเป็นโลหะเนื้ออ่อน แต่มีความแข็งและมีความหนาแน่นมากกว่าธาตุหมู่ 1A ส่วนใหญ่มีสีเงิน ทำปฏิกิริยาได้ดีกับกับธาตุหมู่ 7A และน้ำ แต่ปฏิกิริยามีความรุนแรงน้อยกว่าธาตุหมู่ 1A ธาตุหมู่ 2A จะมีเวเลนซ์อิเล็กตรอนอยู่ชั้นนอกสุดเพียง 2 อนุภาค จึงถูกดึงหรือสูญเสียอิเล็กตรอนไปได้ง่าย ดังนั้นธาตุหมู่ 2A จึงมีสมบัติความเป็นโลหะที่ดี ตัวอย่างของธาตุหมู่
2A ที่ควรรู้จัก ได้แก่
- เบริลเลียม (Be) เป็นโลหะซึ่งมีสีเทาเหมือนเหล็ก แข็งแรง น้ำหนักเบา แต่เปราะ มักใช้สำหรับเป็นโลหะผสมเพื่อทำให้โลหะแข็งแกร่งขึ้น
- แมกนีเซียม (Mg) เป็นธาตุที่พบได้มากในธรรมชาติ โดยพบว่าเป็นส่วนประกอบของเปลือกโลกประมาณ 2% และเป็นธาตุที่ละลายอยู่ในน้ำทะเลมากเป็นอันดับ 3 นิยมใช้วัตถุดิบในการผลิตโลหะผสมอะลูมิเนียม-แมกนีเซียม
- แคลเซียม (Ca) เป็นโลหะสีเทาอ่อน มักใช้ในการสกัดธาตุยูเรเนียม (U) เป็นธาตุที่มีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของโครงสร้างร่างกายของสิ่งมีชีวิต เช่น กระดูก และฟัน เป็นต้น
- แบเรียม (Ba) เป็นธาตุที่มีอยู่น้อยในธรรมชาติ มีสมบัติคล้ายกับธาตุแคลเซียม สามารถทำปฏิกิริยากับอากาศได้ดี ทำให้สามารถพบได้เฉพาะในลักษณะสารประกอบเท่ากัน มีการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการขุดเจาะน้ำมัน การทำเหมือนแร่ การถ่ายภาพเอ็กซเรย์ทางการแพทย์ เป็นต้น
2A ที่ควรรู้จัก ได้แก่
- เบริลเลียม (Be) เป็นโลหะซึ่งมีสีเทาเหมือนเหล็ก แข็งแรง น้ำหนักเบา แต่เปราะ มักใช้สำหรับเป็นโลหะผสมเพื่อทำให้โลหะแข็งแกร่งขึ้น
- แมกนีเซียม (Mg) เป็นธาตุที่พบได้มากในธรรมชาติ โดยพบว่าเป็นส่วนประกอบของเปลือกโลกประมาณ 2% และเป็นธาตุที่ละลายอยู่ในน้ำทะเลมากเป็นอันดับ 3 นิยมใช้วัตถุดิบในการผลิตโลหะผสมอะลูมิเนียม-แมกนีเซียม
- แคลเซียม (Ca) เป็นโลหะสีเทาอ่อน มักใช้ในการสกัดธาตุยูเรเนียม (U) เป็นธาตุที่มีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของโครงสร้างร่างกายของสิ่งมีชีวิต เช่น กระดูก และฟัน เป็นต้น
- แบเรียม (Ba) เป็นธาตุที่มีอยู่น้อยในธรรมชาติ มีสมบัติคล้ายกับธาตุแคลเซียม สามารถทำปฏิกิริยากับอากาศได้ดี ทำให้สามารถพบได้เฉพาะในลักษณะสารประกอบเท่ากัน มีการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการขุดเจาะน้ำมัน การทำเหมือนแร่ การถ่ายภาพเอ็กซเรย์ทางการแพทย์ เป็นต้น
3. ธาตุหมู่ 7A หรือธาตุแฮโลเจน (Halogen) ธาตุหมู่ 7A หรือธาตุแฮโลเจน เป็นธาตุที่มีสมบัติเป็นอโลหะ มีความว่องไวต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีสูง ในสภาพธรรมชาติเรามักจะพบว่าธาตุกลุ่มนี้ในลักษณะเป็นโมเลกุลคู่ซึ่งประกอบด้วย 2 อะตอม คุณสมบัติอย่างหนึ่งของธาตุหมู่ 7A คือ เมื่อรวมตัวกับไฮโดรเจน (H) จะมีฤทธิ์เป็นกรดรุนแรง เช่น กรดไฮโดรคลอริก (HCl), กรดไฮโดรฟลูออริก (HF) เป็นต้น ธาตุหมู่ 7A จะมีเวเลนซ์อิเล็กตรอนจากธาตุอื่น ๆ ได้ดี จึงมีสมบัติความเป็นอโลหะสูง ตัวอย่างของธาตุหมู่ 7A ที่ควรรู้จักได้แก่
- ฟลูออรีน (F) มีสถานะเป็นแก๊ส มีสีเหลืองอ่อนและเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต โดยฟลูออรีนที่บริสุทธิ์จะมีอันตรายเป็นอย่างมากสามารถทำให้เกิดรอยไหม้บนผิวหนังได้ โดยทั่วไปจะใช้ประโยชน์ในรูปของสารประกอบฟลูออรีน เช่น โซเดียมฟลูออไรด์ (NaF) ซึ่งหากใช้ในปริมาณเล็กน้อยเติมลงในยาสีฟันจะช่วยป้องกันฟันผุได้
- คลอรีน (Cl) มีสถานะเป็นแก๊ส มีสีเขียมอมเหลือง มีน้ำหนักมากกว่าอากาศ มีกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง และเป็นพิษอย่างร้ายแรง มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคได้ดี จึงนิยมใช้เติมลงในน้ำหรือในสระน้ำ เพื่อทำให้น้ำสะอาด คลอรีนจะพบได้มากในรูปของเกลือทะเลและสารประกอบอื่น ๆ เช่น เกลือแกง (NaCl) หรือโซเดียมคลอไรด์ เป็นต้น
- โบรมีน (Br) เป็นธาตุเพียงชนิดเดียวในกลุ่มธาตุหมู 7A ที่มีสถานะเป็นของเหลว มีสีแดง สามารถระเหยได้ง่ายที่อุณหภูมิห้อง เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อของมนุษย์ เนื่องจากไอระเหยสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตาและผิวหนังที่บอบบางได้
- ไอโอดีน (I) มีสถานะเป็นของแข็ง ไม่ละลายน้ำ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต เนื่องจากเป็นธาตุที่เป็นธาตุที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตฮอร์โมนที่สำคัญบางชนิด นอกจากนี้ไอโอดีนยังมีประโยชน์ในการผลิตยาฆ่าเชื้อ และสีย้อมผ้า
- ฟลูออรีน (F) มีสถานะเป็นแก๊ส มีสีเหลืองอ่อนและเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต โดยฟลูออรีนที่บริสุทธิ์จะมีอันตรายเป็นอย่างมากสามารถทำให้เกิดรอยไหม้บนผิวหนังได้ โดยทั่วไปจะใช้ประโยชน์ในรูปของสารประกอบฟลูออรีน เช่น โซเดียมฟลูออไรด์ (NaF) ซึ่งหากใช้ในปริมาณเล็กน้อยเติมลงในยาสีฟันจะช่วยป้องกันฟันผุได้
- คลอรีน (Cl) มีสถานะเป็นแก๊ส มีสีเขียมอมเหลือง มีน้ำหนักมากกว่าอากาศ มีกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง และเป็นพิษอย่างร้ายแรง มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคได้ดี จึงนิยมใช้เติมลงในน้ำหรือในสระน้ำ เพื่อทำให้น้ำสะอาด คลอรีนจะพบได้มากในรูปของเกลือทะเลและสารประกอบอื่น ๆ เช่น เกลือแกง (NaCl) หรือโซเดียมคลอไรด์ เป็นต้น
- โบรมีน (Br) เป็นธาตุเพียงชนิดเดียวในกลุ่มธาตุหมู 7A ที่มีสถานะเป็นของเหลว มีสีแดง สามารถระเหยได้ง่ายที่อุณหภูมิห้อง เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อของมนุษย์ เนื่องจากไอระเหยสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตาและผิวหนังที่บอบบางได้
- ไอโอดีน (I) มีสถานะเป็นของแข็ง ไม่ละลายน้ำ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต เนื่องจากเป็นธาตุที่เป็นธาตุที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตฮอร์โมนที่สำคัญบางชนิด นอกจากนี้ไอโอดีนยังมีประโยชน์ในการผลิตยาฆ่าเชื้อ และสีย้อมผ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น