. เพชร (Diamond)
เพชร (Diamond) เป็นรูปหนึ่งของธาตุคาร์บอน มีโครงสร้างเป็นผลึกสามมิติ คาร์บอน 1 อะตอมมีเวเลนต์อิเล็กตรอนเท่ากับ 4 จึงสามารถเกิดพันธะโคเวเลนต์กับอะตอมคาร์บอนข้างเคียงอีก 4 อะตอม จากการวัดความยาวพันธะระหว่างอะตอมระหว่างอะตอมคาร์บอนกับคาร์บอนเท่ากับ 154 pm ยาวเท่ากับพันธะเดี่ยวพอดี เพชรมีลักษณะโครงสร้างเป็นรูปทรงสี่หน้าเชื่อมโยงกันเป็นตาข่าย 3 มิติ อะตอมของคาร์บอนจึงถูกยึดไว้แน่น เพชรจึงมีความแข็งมาก และเนื่องจากคาร์บอนแต่ละอะตอมใช้เวเลนต์อิเล็กตรอนสร้างพันธะโคเวเลนต์หมด ไม่มีอิเล็กตรอนอิสระที่จะใช้เคลื่อนที่ ดังนั้นเพชรจึงไม่นำไฟฟ้า
เพชร (Diamond) เป็นรูปหนึ่งของธาตุคาร์บอน มีโครงสร้างเป็นผลึกสามมิติ คาร์บอน 1 อะตอมมีเวเลนต์อิเล็กตรอนเท่ากับ 4 จึงสามารถเกิดพันธะโคเวเลนต์กับอะตอมคาร์บอนข้างเคียงอีก 4 อะตอม จากการวัดความยาวพันธะระหว่างอะตอมระหว่างอะตอมคาร์บอนกับคาร์บอนเท่ากับ 154 pm ยาวเท่ากับพันธะเดี่ยวพอดี เพชรมีลักษณะโครงสร้างเป็นรูปทรงสี่หน้าเชื่อมโยงกันเป็นตาข่าย 3 มิติ อะตอมของคาร์บอนจึงถูกยึดไว้แน่น เพชรจึงมีความแข็งมาก และเนื่องจากคาร์บอนแต่ละอะตอมใช้เวเลนต์อิเล็กตรอนสร้างพันธะโคเวเลนต์หมด ไม่มีอิเล็กตรอนอิสระที่จะใช้เคลื่อนที่ ดังนั้นเพชรจึงไม่นำไฟฟ้า
2. แกรไฟต์ (Graphite)
แกร์ไฟต์ (Graphite) เป็นรูปหนึ่งของธาตุคาร์บอน มีโครงสร้างเป็นชั้น ๆ ภายในชั้นเดียวกันคาร์บอนแต่ละอะตอมสร้างพันธะโคเวเลนต์กับอะตอมข้างเคียงอีก 3 อะตอม จากการวัดความยาวพันธะแต่ละพันธะภายในชั้นเดียวกันของแกร์ไฟต์ยาว 140 pm และจากข้อมูลทราบว่าพันธะเดี่ยวระหว่างอะตอมคาร์บอนมีความยาว 154 pm ส่วนพันธะคู่ระหว่างอะตอมคาร์บอน มีความยาว 134 pm ด้วยเหตุนี้พันธะโคเวเลนต์ของอะตอมคาร์บอนในชั้นเดียวกันของแกร์ไฟต์มีลักษณะก้ำกึ่งระหว่างพันธะเดี่ยวกับพันธะคู่ แสดงว่าคาร์บอนในชั้นเดียวกันของแกร์ไฟต์สามารถเกิดเรโซแนนซ์ได้
การที่คาร์บอนแต่ละอะตอมสร้างพันธะโคเวเลนต์กับคาร์บอนอะตอมอื่นอีก 3 อะตอมที่อยู่ใกล้เคียงกันภายในชั้นเดียวกัน ดังนั้นคาร์บอนแต่ละอะตอมจะมีเวเลนต์อิเล็กตรอนเหลืออีก อิเล็กตรอนไม่อยู่กับที่ เคลื่อนที่ได้อิสระทั่วไปภายในชั้นเดียวกัน แกร์ไฟต์จึงนำไฟฟ้าได้ดีเฉพาะในทิศทางที่ขนานกับชั้นเท่านั้น
ในผลึกแกร์ไฟต์ระหว่างชั้นของแกร์ไฟต์ยึดกันด้วยแรงแวนเดอร์วาลส์ชั้นของคาร์บอนแต่ละชั้นห่าง 340 pm ซึ่งเป็นระยะที่ยาวกว่าพันธะระหว่างคาร์บอนกับคาร์บอนในชั้นเดียวกัน ผลึกแกร์ไฟต์จึงแตกออกจากกันได้ง่าย สามารถใช้เป็นสารหล่อลื่น และใช้ทำไส้ดินสอได้
แกร์ไฟต์ (Graphite) เป็นรูปหนึ่งของธาตุคาร์บอน มีโครงสร้างเป็นชั้น ๆ ภายในชั้นเดียวกันคาร์บอนแต่ละอะตอมสร้างพันธะโคเวเลนต์กับอะตอมข้างเคียงอีก 3 อะตอม จากการวัดความยาวพันธะแต่ละพันธะภายในชั้นเดียวกันของแกร์ไฟต์ยาว 140 pm และจากข้อมูลทราบว่าพันธะเดี่ยวระหว่างอะตอมคาร์บอนมีความยาว 154 pm ส่วนพันธะคู่ระหว่างอะตอมคาร์บอน มีความยาว 134 pm ด้วยเหตุนี้พันธะโคเวเลนต์ของอะตอมคาร์บอนในชั้นเดียวกันของแกร์ไฟต์มีลักษณะก้ำกึ่งระหว่างพันธะเดี่ยวกับพันธะคู่ แสดงว่าคาร์บอนในชั้นเดียวกันของแกร์ไฟต์สามารถเกิดเรโซแนนซ์ได้
การที่คาร์บอนแต่ละอะตอมสร้างพันธะโคเวเลนต์กับคาร์บอนอะตอมอื่นอีก 3 อะตอมที่อยู่ใกล้เคียงกันภายในชั้นเดียวกัน ดังนั้นคาร์บอนแต่ละอะตอมจะมีเวเลนต์อิเล็กตรอนเหลืออีก อิเล็กตรอนไม่อยู่กับที่ เคลื่อนที่ได้อิสระทั่วไปภายในชั้นเดียวกัน แกร์ไฟต์จึงนำไฟฟ้าได้ดีเฉพาะในทิศทางที่ขนานกับชั้นเท่านั้น
ในผลึกแกร์ไฟต์ระหว่างชั้นของแกร์ไฟต์ยึดกันด้วยแรงแวนเดอร์วาลส์ชั้นของคาร์บอนแต่ละชั้นห่าง 340 pm ซึ่งเป็นระยะที่ยาวกว่าพันธะระหว่างคาร์บอนกับคาร์บอนในชั้นเดียวกัน ผลึกแกร์ไฟต์จึงแตกออกจากกันได้ง่าย สามารถใช้เป็นสารหล่อลื่น และใช้ทำไส้ดินสอได้
3. ซิลิคอนไดออกไซด์ (SiO2)
โครงสร้างของซิลิคอนไดออกไซด์ จะมีความคล้ายคลึงกับโครงสร้างของเพชร โดยอะตอมซิลิกอนต่อกับอะตอมออกซิเจนข้างเคียงด้วยพันธะเดี่ยว
โครงสร้างของซิลิคอนไดออกไซด์ จะมีความคล้ายคลึงกับโครงสร้างของเพชร โดยอะตอมซิลิกอนต่อกับอะตอมออกซิเจนข้างเคียงด้วยพันธะเดี่ยว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น